วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556




Maltese






{pic-alt} ลักษณะทั่วไป


     มอลทีส หรือ มัลทีส เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส เรียบร้อย และเชื่อฟังคำสั่ง สุภาพอ่อนโยน มีความเป็นมิตรกับคนทั่วไปชอบที่จะให้อุ้มหรือกอดอยู่เสมอ ในบางครั้งอาจจะเกรี้ยวกราดบ้างกับสุนัขด้วยกัน มอลทีสเป็นสุนัขที่มีนิสัยอิจฉาชอบประจบเจ้าของ รักเจ้าของมาก ชอบปกป้องเจ้านายหรืออาณาเขตของมันเองออดอ้อนออเซาะ ไม่เป็นรองใครมีความฉลาดแสนรู้ แต่จิตใจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวไม่ยอมใครดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงรวมไว้กับสุนัขตัวโตๆ เพราะจะมีโอกาสรอดไม่ถึงแก่ตาย โดยปกติแล้วไม่ควรทิ้งให้อยู่ตามลำพังเป็นเวลานานๆ มอลทีส ไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน แม้ว่าจริงๆแล้ว เขาก็เฝ้าบ้านได้ดีและก็สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ดีเช่นกัน มอลทีส เป็นสุนัขที่มีความรักให้กับคุณอย่างมากมาย ทำให้คุณชื่นใจทุกครั้งด้วยการคอยต้อนรับคุณที่ประตูเป็นสุนัขที่ฉลาดและชอบให้เอาใจ

 

{pic-alt} ความเป็นมา


     สุนัขมอลทีสมีถิ่นกำเนิดในประเทศ MALTA (แถบทะเลเมอร์ดิเตอริเนียน) มานานเกือบ 2800 ปีแล้ว นักเขียนหรือนักวาดภาพในสมัยโบราณมักนิยมเขียนเรื่องราวหรือภาพของสุนัขพันธุ์นี้ และเป็นที่นิยมเลี้ยงของผู้คนสมัยนั้น และจนกษัตริย์อียิปต์โบราณและ QUEEN VICTORIA ด้วย MALTESE เป็นสุนัขที่มีขนมีขาวสะอาดมีสุขภาพดี คล้ายสุนัขใหญ่กลุ่ม SPANIEL ในปี ค.ศ. 1607 มีการซื้อขายพันธุ์ MALTESE ตัวหนึ่งสูงถึง 2000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 50000 บาท




{pic-alt} ลักษณะนิสัย


     มอลทีส ไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน แม้ว่าจริงๆแล้ว เขาก็เฝ้าบ้านได้ดีและก็สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ดีเช่นกัน มอลทีส เป็นสุนัขที่มีความรักให้กับคุณอย่างมากมาย ทำให้ผู้เลี้ยงชื่นใจทุกครั้งด้วยการคอยต้อนรับคุณที่ประตูเป็นสุนัขที่ฉลาดและชอบให้เอาใจ และถึงแม้จะตัวเล็กแต่ก็กล้าหาญ ซื่อสัตย์และน่ารัก ถือเป็นสุนัขที่สุภาพอ่อนโยนมากในหมู่สุนัขเล็กด้วยกัน แต่ก็กระตือรือร้น ร่าเริง กระฉับกระเฉงและขี้เล่น

 

{pic-alt} การดูแล


     มอลทีส จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ถึงแม้มอลทีสจะเพลิดเพลินกับการวิ่งเล่นในสวนหลังบ้าน แต่พวกเขาชอบอยู่ในบ้านซึ่งจะได้ใกล้ชิดกับเรามากกว่า แต่ถ้าเลี้ยงเขาในแฟล็ตหรือคอนโด ก็ควรจะจูง เขาไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง มอลทีส เป็นสุนัขประกวดที่สวยงาม แต่ถ้าเลี้ยงไว้ เป็นเพื่อน ก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยขนไว้ให้ยาวเต็มที่ เพียงแค่คอยเล็มแต่งขนเขาเพื่อให้ดูแลรักษาง่ายๆ แต่เราต้องแปรงขนเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ขนพันกัน อาบน้ำให้น้องมอลทีสซักสัปดาห์ละครั้ง พร้อมทั้งเป่าขนให้แห้งเสมอ

     อุปกรณ์สำคัญสำหรับสุนัขพันธุ์มอลทีสนี้ได้แก่ แปรงสำหรับแปรงขนดีๆ หวีซี่เล็ก กรรไกรสำหรับ แต่งขนบริเวณใต้ฝ่าเท้า รวมทั้งกรรไกร ตัดเล็บสุนัข และกรดบอริคเพื่อเช็ดรอยคราบน้ำตา และควรปล่อยให้หน้าที่การดูแลเรื่องขนของมอลทีส เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ สุนัขอาจจู้จี้เรื่องกินบ้าง ดังนั้นถ้าคุณไม่ต้องการมีปัญหาในภายหลัง ควรเริ่มต้นอย่างถูกต้องโดย ปรึกษาผู้เพาะพันธุ์ว่าสุนัขตัวนั้นชอบหรือไม่ชอบ อาหารประเภทไหน


{pic-alt}



{pic-alt} ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม    


     เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อน

 

{pic-alt} ข้อควรจำ

     แม้จะจัดสุนัขพันธุ์นี้อยู่ในกลุ่มทอย มอลทีส ก็ยังต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดูแลเรื่องการให้อาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่อ้วนเกินไป




{pic-alt}



มาตรฐานสายพันธุ์

 
ขนาดประมาณ 4 - 6 ปอนด์
ศรีษะมีความยาวปานกลาง หัวกะโหลกลักษณะกลม
ฟันขาว แข็งแรง ขบแบบเสมอหรือขบแบบกรรไกร
ปากมีความยาวปานกลาง ขนาดของโคนปากเรียวสู่ปลายจมูกเล็กน้อย
ตาสีดำ ลักษณะกลม ขอบตาดำ ทำให้ดูตื่นตัวอยู่เสมอ
หูโคนหูอยู่ในระดับต่ำ หูตก บริเวณหูมีขนหนาและยาว
จมูกมีมุมหักพอประมาณ สีดำ
คอมีความยาวพอเหมาะ   
อกค่อนข้างลึก
ลำตัวค่อนข้างสั้น ความยาวของลำตัวมีขนาดใกล้เคียงกับความสูงของลำตัว เส้นหลังตรงขนานกับพื้น
เอวแข็งแรง เอวกิ่วเล็กน้อย
ขาหน้ามีกระดูกใหญ่พอเหมาะ ขาหน้าตั้งตรง ขาหน้ามีขนยาวเท้ามีขนาดเล็กค่อนข้างกลม นิยมตัดขนบริเวณเท้าเพื่อไม่ให้รุ่มร่าม
ขาหลังมีกระดูกใหญ่พอเหมาะ ข้อเท้าแข็งแรงทำมุมพอประมาณเท้ามีขนาดเล็ก เท้ากลม นิยมตัดบริเวณเท้า
หางค่อนข้างยาวหางมีขนยาว หางพาดอยู่บนหลัง
ขนมีขนชั้นเดียว ขนยาวเหยียดตรง ขนฟู ขนไม่ตั้ง บริเวณหัวยาวอาจมัดเป็นจุก หรือหวีปัดลงก็ได้มีสีขาวทั้งตัว
สีขน-



วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556




Samoyed






{pic-alt} ลักษณะทั่วไป


     โดยธรรมชาติแล้ว ซามอยด์เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีความแข็งแรง กระตือรือร้นและตื่นตัว ดูแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกออกจะสวยและสง่างาม ขนหนาเหมาะกับอากาศหนาว สีขนมีทั้งสีขาวบริสุทธิ์ สีขาวผสมขนมปังกรอบ สีครีม หรือสีขนมปังกรอบ ซามอยด์เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีริมฝีปากดำ หยักนิดๆ ที่มุมปาก จนได้รับขนานนาม “รอยยิ้มซามอยด์”  ซามอยด์เพศผู้จะมีช่วงหลังไม่ยาวนักเพราะความยาวที่มากจะทำให้หลังอ่อนแอ บาดเจ็บได้ง่าย แล้วด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำงานที่หนักหน่วงจนเกินไป แต่สำหรับเพศเมียช่วงหลังจะยาวกว่าเพศผู้นิดหน่อย พวกเขามีความสามารถทั้งในเรื่องของการลากเลื่อน การจูงลากดึงของที่มีน้ำหนัก ต้อนสัตว์ หรือแม้แต่แบกของให้แต่นักไต่เขา มีอายุได้ถึง 12-14 ปี

{pic-alt} ความเป็นมา


     ซามอยด์เป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่เก่าแก่ มีเชื้อสายใกล้กับสุนัขพื้นเมือง ซึ่งการผสมพันธุ์ร่วมกับหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก แล้วได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวซามอยด์ของไซบีเรีย เพื่อใช้ต้อนกวางเรนเดียร์ ลากเลื่อน  ซามอยด์ได้รับการดูแลจากชาวพื้นเมืองเป็นอย่างดี ถึงขนาดอนุญาตให้เข้าไปนอนในเต้นท์ได้ เพราะความเป็นความตายของพวกเขาขึ้นอยู่กับสุนัขสายพันธุ์นี้


{pic-alt}



{pic-alt} ลักษณะนิสัย


     ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด อ่อนโยน เชื่อฟัง ซื่อสัตย์ เป็นมิตร กระตือรือร้น ปรับตัวง่าย พร้อมที่จะรับใช้เจ้าของ รักที่จะอยู่กับครอบครัวมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากมนุษย์เป็นพิเศษ เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ สามารถเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต แต่เนื่องจาก ได้รับมรดกตกทอดจากเชื้อสายสุนัขใช้งาน พวกเขาจึงต้องคิดหา สร้างสรรค์กิจกกรมที่ทำให้เขาเพลิดเพลินด้วยตัวเอง เช่น ไล่จับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ หนู หรือแมว อะไรก็ตามที่ตัวเล็กๆ ชอบวิ่ง และชอบเห่า เพื่อเป็นหนทางในการปลอดปล่อยพลังงาน แทนการทำงานหรือกิจกรรมหนักๆที่พวกเขาไม่ได้ทำ

{pic-alt} การดูแล


     การทำความสะอาดซามอยด์ควรอาบน้ำให้ประมาณเดือนละครั้ง ไม่ควรอาบบ่อยจนเกินไป เพราะจะล้างน้ำมันที่ขนและผิวหนังซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติออกไป ทำให้ผิวแห้งและก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา  ขนของพวกเขา มักจะพันกันยุ่งเหยิง ควรแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และแปรงบ่อยครั้งขึ้นช่วงฤดูผลัดขน

     อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีไว้ใช้งาน เมื่อนำมาเลี้ยงตามบ้าน จึงมีพลังงานเหลือเฟือ ดังนั้นการออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำจึงจำเป็นมากๆ สำหรับพวกเขา เพื่อเผาผลาญพลังงาน เพราะถ้าพวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย จะเกิดอาการพาล อารมณ์ไม่ดี วิ่งไปมา หรือเห่า อาจถึงขั้นทำลายข้าวของ เช่นเดียวกับเวลาที่เขาเกิดความวิตกกังวลกระวนกระวาย จึงควรพาเขาไปวิ่งหรือออกกำลังกายในพื้นที่กว้างๆ เช่นสนามหญ้าหรือสวนสาธารณะ แต่ซามอยด์ค่อนข้างตื่นตระหนกได้ง่าย และชอบเห่า จึงไม่ควรพาเขาออกไปอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน

     ซามอยด์ต้องการความรักและต้องการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงไม่ควรทิ้งเขาให้อยู่บ้านตัวเดียว พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้ตามลำพังนานจนเกินไป



{pic-alt}



{pic-alt} ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม


     ผู้ที่ต้องการเลี้ยงซามอยด์ ต้องมีเวลาให้เขาเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขารักที่จะอยู่กับคนในครอบครัว การทิ้งให้เขาอยู่ตามลำพังเกินหนึ่งชั่วโมง สามารถทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคง และไม่มีความสุข และอาจทำลายข้าวของเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ นอกจากนี้การออกกำลังกายทุกวันก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับซามอยด์ เพราะพวกเขามีพลังงานเหลือเฟือที่ต้องหาทางปลดปล่อย จะได้ไม่วิ่งซนไล่กัดสัตว์ตัวเล็ก หรือเห่าไม่ยอมหยุด

{pic-alt} ข้อควรจำ


     • พวกเขาต้องการความรักและการเอาใจใส่จากครอบครัวอย่างมาก
     • ควรระวังโรคเกี่ยวกับสะโพกเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน ประสาทตาเสีย ซึ่งอาจมีผลทำให้ตาบอดได้ และโรคเบาหวาน ดังนั้นจึงควรพาไปตรวจร่างกายเป็นประจำ


{pic-alt}


{pic-alt}


{pic-alt}


{pic-alt}



{pic-alt} มาตรฐานสายพันธุ์
 

ขนาด
ซามอยด์เพศผู้ จะมีส่วนสูงอยู่ระหว่าง 21 - 23.5 นิ้ว น้ำหนัก 20 - 30 กิโลกรัม ส่วนเพศเมีย มีส่วนสูงประมาณ 19 - 21.5 นิ้ว น้ำหนัก 17 - 25 กิโลกรัม
ศรีษะ

ศีรษะ มีลักษณะเป็นรูปลิ่ม กว้าง แต่แคบลงนิดหน่อย ศีรษะไม่กลม หรือเป็นรูปทรงผลแอปเปิ้ล หากเป็นทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ระหว่างเส้นโคนหูทั้ง 2 ข้าง และจุดกึ่งกลางที่ตำแหน่งช่วงหักของสันดั้งจมูก
ฟัน
แข็งแรง จัดเรียงสวยงาม ฟันบนล่างซ้อนกันพอเหมาะพอดี ตามแบบลักษณะฟันกรรไกร
ปาก
สีดำ ริมฝีปากกระชับ ไม่ย้อยลงมา  มีรอยหยักล้ำออกไปนิดหน่อยบริเวณมุมปาก ดูเป็นรอยยิ้ม อย่างที่รู้จักกันดีว่า  “รอยยิ้มซามอยด์”
ตา
รูปตาเป็นวงรี ทรงอัลมอนด์ ลูกตามีสีเข้ม ตาลึก ขอบตาดำ  หางตาช่วงล่างตวัดขึ้นไปยังตำแหน่งฐานหู
หู


ใบ หูหนาและแข็งแรง ตั้งตรง เป็นทรงสามเหลี่ยม ส่วนบนสุดของใบหูโค้งมนเล็กน้อย หูทั้ง 2 ข้างควรมีขนาดพอเหมาะกับขนาดศีรษะและขนาดตัว ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ความยาวของหูควรเป็นความยาวเดียวกับระยะห่างระหว่างโคนหูถึงมุมหางตา ภายในหูมีขนปกคลุม และด้านนอกใบหูก็เช่นกัน
จมูกดำสนิท แต่สีจมูกสามารถเปลี่ยนไปได้ ตามอายุหรือสภาพอากาศ
คอ
แข็งแรง ตั้งตรง สง่างาม กล้ามเนื้อแข็งแรงได้รูป ลาดลงโค้งรับต่อกับช่วงไหล่สง่างาม น่ามอง
อก


อก ลึก กระดูกซี่โครงขยายออกกว้าง ช่วยให้ขาหน้าและไหล่เคลื่อนไหวได้ดี ถ้าช่วงอกที่ลึกที่สุดอยู่ในตำแหน่งด้านหลังของขาหน้า ใกล้กับซี่โครงซี่ที่เก้า จะถือว่าเป็นช่วงอกที่สมบูรณ์แบบมากๆ ซึ่งช่วงอกที่ลึกสามารถเก็บรักษาหัวใจและปอดได้ดีและปลอดภัยกว่าช่วงอกที่ กว้าง
ลำตัว





กระดูก และกล้ามเนื้อแข็งแรงมีประสิทธิภาพ รูปทรงมีลักษณะกลมสมดุล  กระดูกหนากว่าสุนัขที่มีขนาดเท่ากันแต่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของซามอยด์ ส่วนลำตัวที่สูงที่สุดของซามอยด์อยู่บริเวณแผ่นหลัง ยาวตรงไปยังสะโพกที่แข็งแรง โค้ง  อกลึก กระดูกซี่โครงขยายกำลังดี กล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับ ไม่หย่อนคล้อย มีความยาวของลำตัวยาวกว่าส่วนสูงเพียงประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ จึงมีรูปทรงลำตัวเป็นสี่เหลี่ยม แต่ซามอยด์เพศเมียจะมีลำตัวยาวกว่าเพศผู้เล็กน้อย
เอว-
ขาหน้า
ตั้งตรง และตั้งฉากกับพื้น แข็งแรง มีพลัง ช่วยให้การก้าวกระโดดมั่นคง ช่วงไหล่ทั้งสองข้างยาวและลาดต่ำลงสวยงาม
ขาหลัง
กล้ามเนื้อขาหลังท่อนบนแข็งแรง  กระดูกขาค่อนข้างใหญ่  ข้อเท้าทำมุมพอประมาณ  มีขนหนาบนบริเวณด้านหลังขา
หาง

ควร มีความยาวพอดี ปกคลุมด้วยขนยาวเป็นพวง เมื่อทิ้งหางลง ปลายหางจะอยู่ระหว่างข้อเท้าหลัง แต่เมื่อตื่นตัวจะยกหางพาดด้านหลังหรือด้านข้าง แล้วจะตกลงเมื่อผ่อนคลาย
ขน


มี ขน 2 ชั้น ชั้นแรกจะสั้น นุ่ม และหนา ติดกับชั้นขนที่ยาวกว่า และหยาบกว่าซึ่งอยู่ชั้นนอก ขนของชามอยด์มีความเงางาม  บริเวณรอบคอและไหล่ขนฟูหนาเป็นแผงคอช่วยให้ทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยปกติแล้วขนบริเวณคอของเพศผู้จะยาวกว่าเพศเมีย แต่จะมีความนุ่มมากกว่า
สีขน
ควรเป็นสีขาวบริสุทธิ์ สีขนมปังกรอบ (สีน้ำตาลออกขาวๆ)  สีขาวผสมสีน้ำตาลขนมปังกรอบ  หรือสีครีม





วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556




Thai Bangkaew




{pic-alt} ลักษณะทั่วไป


     บางแก้วเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีสัดส่วนที่กลมกลืน มีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีการเลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว รวดเร็ว ปราดเปรียว

{pic-alt} ความเป็นมา


     สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขไทย มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่บ้านบางแก้ว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก บางแก้วเป็นสุนัขเอนกประสงค์




{pic-alt}



{pic-alt} ลักษณะนิสัย


     บางแก้วมีนิสัยที่ค่อนข้างตื่นตัว ร่าเริง เชื่อมั่นในตัวเอง จิตประสาทมั่นคงไม่ขี้กลัวหรือตื่นตกใจง่าย ซื่อสัตย์ หวงของ ฉลาด กล้าหาญ สามารถฝึกใช้งานได้ หวงสิ่งของและหวงเจ้าของ และมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ

{pic-alt} การดูแล


     การให้อาหารสุนัขไทยบางแก้ว นั้นส่วนใหญ่แล้วสุนัขบางแก้วจะชอบกินเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อปลา อาจให้กินข้าวสลับกับอาหารเม็ด และควรให้กินน้ำอย่างสม่ำเสมอ (ควรเปลี่ยนน้ำทุกวันด้วย) ส่วนเรื่องการดูแลทำความสะอาดนั้น สุนัขบางแก้วเป็นสุนักที่มีขนยาวในระดับปานกลาง ควรอาบน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างสม่ำเสมอ และควรแปรงขนบ่อยๆ ด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกายนั้น หากผู้เลี้ยงมีเวลาว่าง ควรพาสุนัขออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง เพื่อเป็นการเสริมสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสุนัข และเป็นการผ่อนคลายความเครียดให้กับสุนัขด้วย


{pic-alt}




{pic-alt} ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม


     ควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัขทั้งในเรื่องของความสะอาดและสุขภาพ ทั้งนี้ผู้เลี้ยงยังต้องมีความเข้าใจถึงอุปนิสัยของสุนัขบางแก้วด้วยว่า เป็นสุนัขที่ค่อนข้างดุแต่สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ หากผู้เลี้ยงมีความเข้าใจในอุปนิสัยของสุนัขว่ามีนิสัยที่ค่อนข้างหวงถิ่นที่อยู่ และหวงสิ่งของ รวมไปถึงหวงเจ้าของ และมีการฝึกให้สุนัขอยู่ในกฏระเบียบและเชื่อฟังคำสั่งก็จะไม่มีปัญหาในการเลี้ยง

{pic-alt} ข้อควรจำ


    ควรระวังหากมีคนภายนอกมาเข้ามาแตะต้อง มันจะทำร้ายทันที



 {pic-alt}




{pic-alt} มาตรฐานสายพันธุ์



ขนาดเพศผู้สูง 19 - 21 นิ้ว เพศเมียสูง 17 - 19 นิ้ว
ศรีษะกะโหลกใหญ่ ได้สัดส่วนกับลำตัว ปากยาวแหลม
ฟันเล็กและแหลมคม คบแบบกรรไกร ฟันบนเกยอยู่ด้านนอก สุนัขโตควรมีฟันครบ 42 ซี่
ปาก-
ตาเล็ก เป็นรูปผลอัลมอนต์ สีน้ำตาลเข้ม
หูเป็นรูปสามเหลี่ยมมีขนาดเล็ก ได้สัดส่วนกับหัว โน้มไปด้านหน้า มีขนอ่อนที่กกหูและหลังใบหู
จมูก-
คอคอใหญ่ มีแผงขนยาวรอบคอคล้ายสิงโต
อก-
ลำตัวช่วงตัวตอนหน้าใหญ่ ตอนท้ายค่อนข้างเล็ก ลำตัวหนาปานกลาง อกลึกปานกลางแต่แคบ ยืดอกเวลาเดิน เส้นหลังตรง        
เอว-
ขาหน้าใหญ่กว่าขาหลัง เวลายืนเหยียดตรงและขนานกัน หลังขามีขนยาว
ขาหลังเล็กกว่าขาหน้า เวลายืนทำมุมพอเหมาะ
หางโคนหางใหญ่ ขนหางเป็นพวง ปลายโค้งเข้าหาสันหลัง
ขนขนยาวปานกลาง มี 2 ชั้น ชั้นในละเอียดนุ่ม ชั้นนอกเส้นใหญ่เหยียดตรง ยาวคลุมแผ่นหลัง
สีขนขาว-น้ำตาล , ขาว-ดำ , ขาว-เทา